ตำรวจหนุ่มวัย 36 ตายคาบ้านหลังฉีดซิโนแวค 17 วัน พ่อยันลูกแข็งแรง ไร้โรค
ส.ต.อ.วัย 36 ปี เสียชีวิตคาบ้านเชียงใหม่ ที่ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังฉีดวัคซีนเข็มแรกผ่านไป 17 วัน พ่อเผยบ่นก่อนตายไม่อยากฉีดแต่จำใจ ยันลูกชายแข็งแรง ไร้โรคประจำตัว เชื่อตายเพราะวัคซีน เรียกร้องหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ
วันที่ 12 มิถุนายน ที่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ 2 ต.แช่ช้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านไปช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดงานศพให้กับ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ สุรินต๊ะ อายุ 36 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ช่วยราชการกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ หลังเสียชีวิตกะทันหันเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยทางครอบครัวและคนในหมู่บ้านเชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการฉีดวัคซีน
นายบุญมี สุรินต๊ะ อายุ 66 ปี บิดาของ ส.ต.ท.ปิยะพงษ์ บอกว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายมาบอกว่าได้รับคำสั่งให้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยี่ห้อซิโนแวค ลูกชายบ่นว่าไม่อยากฉีดเพราะกลัวมีผลข้างเคียง แต่เมื่อเป็นคำสั่งก็ต้องปฏิบัติตาม โดยเข้าฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังจากฉีดวัคซีนได้ประมาณ 3 วัน ลูกชายมีผื่นแดงขึ้นที่หลัง แต่หลังจากนั้นก็หายไปเอง ส่วนอาการข้างเคียงอื่นๆ ก็ไม่มี ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและไปทำงานได้ตามปกติ จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ลูกชายมาหาที่บ้านตามปกติ ก่อนจะกลับไปบ้านของตัวเองที่อยู่กับภรรยาในหมู่บ้านใกล้เคียงประมาณ 3 ทุ่ม หลังจากนั้นได้อาบน้ำประมาณ 5 ทุ่ม และมานั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ในช่วงนั้นภรรยาและลูกสาวได้เข้านอนไปแล้ว ปรากฏว่าในช่วงเช้ามืดประมาณตี 5 ภรรยาออกมาพบสามีล้มไปนอนกับพื้นและเสียชีวิตไปแล้ว
นายบุญมี กล่าวอีกว่า ลูกชายเป็นคนแข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ไม่พบมีโรคประจำตัว จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เสียชีวิตกะทันหัน นอกเหนือไปจากผลจากการฉีดวัคซีน ซึ่งครอบครัวเสียใจมาก เพราะ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ เป็นเสาหลัก ดูแลภรรยาและลูกสาววัย 6 ขวบ ที่ผ่านมาก็ได้ดูแลพ่อแม่มาตลอด ความสูญเสียที่เกิดขึ้นทางครอบครัวขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด และขอให้รับผิดชอบ หากผลการเสียชีวิตเกิดจากวัคซีน
สำหรับงานศพในวันนี้ ศพของ ส.ต.อ.ปิยะพงษ์ ยังอยู่ระหว่างการชันสูตรที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คาดว่าทางครอบครัวจะนำกลับไปประกอบพิธีศาสนาได้ในวันพรุ่งนี้ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น ทางสำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ได้รับทราบข้อมูลและอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง.
ที่มาไทยรัฐ