ผู้ต้องขังชายวัย 61 ปี ติดโควิด เสียชีวิตในเรือนจำ จ.นราธิวาส
ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด ในเรือนจำ จ.นราธิวาส เสียชีวิต 1 ศพ เป็นชายวัย 61 ปี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 3 ศพ ผวจ.ย้ำไม่ล็อกดาวน์หรือปิดเมือง
วันที่ 8 เม.ย. ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.นราธิวาส รายงานเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 พบว่า การค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชนของ จ.นราธิวาส จำนวน 146 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมยืนยัน 341 ราย เป็นผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ (8 เม.ย.2564) จำนวน 1 ราย ผู้ป่วยที่กำลังรักษาในโรงพยาบาล จำนวน 275 ราย ผู้ป่วยรักษาหาย 64 ราย และเสียชีวิต 2 ศพ
ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (8 เม.ย.2564) มีผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ในเรือนจำ จ.นราธิวาส เสียชีวิต 1 ศพ เป็นเพศชาย อายุ 61 ปี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 3 ศพ
นางสาวอารีย์ อ่องสว่าง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงการจัดการโรงพยาบาลสนามในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส มีมาตรฐานเทียบเท่ากับโรงพยาบาลชุมชน ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการได้ในระดับหนึ่ง เกือบจะสมบูรณ์และให้ความสำคัญในเรื่องของความสะอาดภายในโรงพยาบาลสนามเป็นอันดับแรก มีมาตรฐานเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อขึ้นในภายในเรือนจำ โดยจัดทีมเข้าไปดูแลเรื่องของขยะติดเชื้อ ให้เป็นไปตามมาตรฐานของโรงพยาบาล
นอกจากนี้มีการวางแผนเรื่องทรัพยากรบุคคล เช่น บุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ภายในโรงพยาบาลสนามให้มีเพียงพอ ในกรณีที่มีผู้ป่วยหนักจะมีรถพยาบาลส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลนราธิวาส
ทั้งนี้ ภายในโรงพยาบาลสนามมีการคัดแยกโซน เป็น 2 ส่วน ในส่วนที่เป็นสถานพยาบาลภายในเรือนจำ สามารถรองรับผู้ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 ได้ประมาณ 200 คน ส่วนในแดน 6 รองรับได้กว่า 800 คน
ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เน้นย้ำไม่มีการล็อกดาวน์หรือปิดเมือง การเดินทางเข้าออกจังหวัดนราธิวาสยังดำเนินการได้ตามปกติ ตามมาตรการเดิมที่กำหนด คือ กรณีเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำอำเภอ เพื่อซักประวัติการเดินทางและประเมินความเสี่ยงเป็นรายบุคคล โดยเน้นการสังเกตอาการที่บ้าน ทั้งนี้ สิ่งที่กำชับเป็นพิเศษคือการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก ที่จะต้องมีการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัดก่อนว่าเห็นสมควรให้จัดหรือไม่ ซึ่งอาจให้ชะลอหรือเลื่อนไปก่อน
ที่มาไทยรัฐ