ร่ำไห้ เชิญวิญญาณ 2นศ.สาว เหยื่อ พ.อ.อ. เก๋งฝ่าไฟแดง เผยนาทีสลด

เสียงร่ำไห้ระงมกลางสี่แยก ครอบครัวนิมนต์พระเชิญดวงวิญญาณ นศ.สาว ถูก เก๋งฝ่าไฟแดง ชนดับบนถนนในพื้นที่ จ.สกลนคร เหยื่อ พ.อ.อ. ตีนผี ตร.เร่งสืบหาตัว

จากกรณีเกิดเหตุเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถจักรยานยนต์ กลางสี่แยกบ้านธาตุนาเวง ถนนนิตโย ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ทำให้ น.ส.ณัฐพร หดทะเสน อายุ 21 ปี และ น.ส.กันยารัตน์ รัตนะ อายุ 21 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ชื่อ น.ส.จันจิรา หงษ์ภู อายุ 21 ปี เบื้องต้นทราบว่า คนขับรถรถยนต์มียศ พ.อ.อ. อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 เม.ย.2564 นางสวย อุผา อายุ 48 ปี ชาวจ.นครพนม พร้องด้วยญาติพี่น้องกว่า 10 คน นิมนต์พระสงฆ์มาเชิญดวงวิญญาณของ น.ส.กันยารัตน์ รัตนะ 1 ในผู้เสียชีวิตเพื่อกลับบ้านตามประเพณี ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียงร่ำไห้ระงม พร้อมเปิดเผยว่า อยากให้ผู้ที่ก่อเหตุออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเกิดด้วยสิ่งไหนก็แล้วแต่ ต้องออกมาแสดงตัวตนถึงการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าอยากได้เงินได้ทอง แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องรับให้ได้

ด้าน นายนัฐ อุผา อายุ 43 ปี น้าชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นผู้รับเหมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เมื่อทราบข่าวหลานสาวเสียชีวิตจึงรีบมาดู เมื่อเห็นภาพแล้วรู้สึกหดหู่ใจ พ่อแม่ก็ใจสลาย โดยเฉพาะพ่อที่นอนป่วยอยู่ถึงกับเป็นลมแล้วเป็นลมอีก เพราะทำใจไม่ได้ น.ส.กันยารัตน์เป็นความหวังของครอบครัว กำลังจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนครในปีนี้ แต่ต้องมาด่วนจากไปก่อนวัยอันควร ซึ่งขณะนี้คู่กรณียังไม่เคยมางานศพ ตนจะยังไม่เผาจนกว่าจะมีผู้ออกมารับผิดชอบ

ขณะที่ ด.ต.รัตนะ ตรีโอษฐ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองสกลนคร ได้มีการนำคลิปจากกล้องหน้ารถของตนเองที่สามารถบันทึกเหตุการณ์วันเกิดเหตุไว้ได้ โดยเป็นภาพขณะที่ผู้ตายกำลังขับรถจักรยานยนต์เคลื่อนรถออกมา เพราะได้สัญญาณไฟเขียว ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถเก๋งสีขาวที่ขับมาจาก จ.นครพนม ด้วยความเร็วสูง ไม่มีการเบรกพุ่งชนจนกระเด็นไปคนละทิศละทาง

ก่อนที่รถเก๋งจะไปหยุดที่สะพานซึ่งห่างจากจุดชุนไปประมาณ 100 เมตร ขณะนั้นเกิดเหตุชุลมุน เพื่อน ๆ มามุงดูเต็มไปหมด จึงไม่ทราบว่าคู่กรณีหลบหนีไปเมื่อใด

เวลาขับขี่ยานพาหนะควรมีสติตลอดเวลา เราอาจจะคิดว่าเราระมัดระวังเพียงพอแล้ว แต่เพื่อนร่วมถนนของเรานั้นอาจไม่ระวัง เพราะฉะนั้นเมื่ออยู่บนถนนจงจำไว้ว่า อย่ารีบร้อนและมองหน้ามองหลังตลอดเวลา

ขอบคุณภาพและที่มาข่าวสด

(Visited 11 times, 1 visits today)

You May Have Missed

error: Content is protected !!