ข้าวมันไก่เจ้อ้วน เปิดใจปมดราม่า ลูกค้าใช้คนละครึ่ง ห้ามนั่งห้องแอร์
ข้าวมันไก่เจ้อ้วน แจงดราม่า ลูกค้าที่ใช้คนละครึ่ง ห้ามนั่งห้องแอร์ ชี้เป็นความเข้าใจผิดของหลาน ที่มีปัญหาทางหูและสื่อสารไม่ค่อยถูก ขอโทษลูกค้าทุกคน
จากกรณีร้านข้าวมันไก่ชื่อดังแห่งหนึ่ง กลายเป็นประเด็นดราม่า ภายหลังจากโลกทวิตเตอร์ได้ออกมาทวีตเกี่ยวกับร้านข้าวมันไก่ ห้ามลูกค้าที่ใช้สิทธิคนละครึ่งนั่งในห้องแอร์ โดยระบุว่า “งงมาก ถึงใช้สิทธิร้านก็ได้เงินเท่าเดิม แถมที่ข้างในก็ยังว่าง แต่ก็ยังยืนยันให้นั่งข้างนอกอีก พอเราบ่น พนักงานหันมาบอกว่า มีแปะป้ายอยู่หน้าประตูอยู่แล้ว เกลียดการแบ่งแยกขนาดนี้ รู้สึกแย่มาก”
เรื่องราวดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 29 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ข้าวมันไก่เจ้อ้วน ย่านเสนา เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยได้พบกับ นางนิตา บุญบางยาง อายุ 61 ปี เจ้าของร้าน
นางนิตา กล่าวว่า ดราม่าที่เกิดขึ้น เกิดจากร้านข้าวมันไก่ตนไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งตั้งแต่แรก แต่ร้านข้าวหน้าเป็ด และร้านข้าวหมูแดง เป็นร้านของหลาน ใช้พื้นที่นั่งร่วมกัน
ต่อมาทั้ง 2 ร้านของหลาน ก็มาพูดกับตนว่าช่วงโควิดลูกค้าเงียบ และอยากเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ตนจึงแนะนำไปว่า ต้องบริการให้ดี และเก็บเงินให้เร็วนะ ส่วนร้านข้าวมันไก่ตน ไมไ่ด้เข้าร่วมโครงการด้วย เนื่องจากตนเป็นคนใช้โทรศัพท์มือถือไม่เก่ง
นางนิตา กล่าวต่อว่า เมื่อทั้ง 2 ร้านเข้าร่วมโครงการ ยอดขายพวกเขาก็เพิ่มขึ้น แต่ก็เกิดปัญหาการเก็บเงิน ลูกค้าบางคน 2 คน คนหนึ่งสั่งข้าวมันไก่ ที่ไม่เข้าร่วมโครงการ ลูกค้าอีกคนทานข้าวหน้าเป็ดที่เข้าร่วมโครงการ ดังนั้นข้าวมันไก่จึงต้องเก็บเงินสด ส่วนข้าวหน้าเป็ดเข้าร่วมโครงการก็ต้องให้เด็กมาสแกนจ่ายข้างนอกร้าน
ส่วนประเด็นดราม่าที่มีการเขียนป้ายหน้าร้าน ไม่ให้ผู้ใช้สิทธิ์คนละครึ่งนั่งห้องแอร์ เกิดจากความเข้าใจผิดของหลานเอง ซึ่งหลานตนมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับหู เขียนไม่ค่อยจะถูก และตนก็ไม่ได้เห็นกระดาษใบนี้ก่อนที่หลานจะเอาไปติดไว้ เพราะไปเข้าโรงพยาบาลหลายวัน มาเห็นข้อความก็ตอนที่เป็นข่าวแล้ว เรื่องนี้ตนก็ขอโทษกับการที่ทำให้ลูกค้าไม่สะดวก และเข้าใจผิด
ส่วนคนที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าแก้ตัวอย่างโน้นอย่างนี้ วันนี้ตนพูดความจริง และยืนยันอีกครั้งว่า หลานมีปัญหาเกี่ยวกับหู และสื่อสารกับลูกค้าไม่ค่อยได้ เสียงเขาจะดัง ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ฟังแล้วจะเพี้ยน ๆ ไป แต่เขาก็ช่วยเหลือที่บ้านตลอด เขาร้องไห้ทั้งวันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาบอกเขาไม่รู้ เขาเขียนไปเพราะเขาไม่อยากวิ่งเก็บเงินไปมา เขาคงคิดว่าให้คนที่ใช้คนละครึ่งนั่งข้างนอกจะเก็บเงินง่ายกว่า ซึ่งตนขอกราบขอโทษลูกค้าทุกๆคน ถ้าเกิดปัญหาอะไรตนก็พร้อมจะอธิบายให้เข้าใจ ตนก็พร้อมจะปรับปรุงให้ดีที่สุด
ที่มาข่าวสดและทวิตเตอร์