เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2564 นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา สั่งการให้นายมหัตม์ มงคล ป้องกันจังหวัด บูรณาการร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ฝ่ายปกครองอำเภอเมือง และตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา เข้าตรวจค้นแหล่งมั่วสุมเด็กและเยาวชนในพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเป็นการป้องปรามปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น

โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบเห็นเด็กและเยาวชนมั่วสุมกันภายในบ้านหลังหนึ่ง ท้ายซอยเทพคุณากร ซอย 1 หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปกวาดล้างจับกุมเมื่อกลางปี 63 และได้แจ้งเจ้าของบ้านให้รับทราบว่า ห้ามปล่อยบ้านเช่าให้เด็กและเยาวชนมาเป็นแหล่งมั่วสุมในลักษณะนี้ กระทั่งมีการร้องเรียนมาอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พบเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 คน และเยาวชนอายุเกิน 18 ปี จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน นอนกันอยู่ในห้องลักษณะมึนเมา ตรวจค้นภายในห้องน้ำ พบอุปกรณ์ที่ใช้ในต้มน้ำกระท่อม และขวดยาแก้ไอที่ใช้เป็นส่วนผสมในการต้มน้ำกระท่อม หรือ 4X100 จำนวนหนึ่ง จึงนำทั้งหมดตรวจปัสสาวะ พบว่ามีสารเสพติดทั้ง 5 คน

เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวทั้งหมดส่งยัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ก่อนเรียกผู้ปกครองมาทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อเตรียมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยนำเข้าบำบัดระบบแมททริกซ์ ที่โรงพยาบาลพุทธโสธร ส่วนอีก 2 รายที่มีอายุเกิน 18 ปี จะนำตัวเข้าค่ายบำบัดฟื้นฟูเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็กได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าของบ้าน ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในความผิดส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำความผิด ตามมาตรา 26(3) แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีโทษ จำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดต่อเจ้าของบ้านมารับทราบข้อกล่าวหา

ด้านประชาชนรายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังมีการกวาดล้างไปก่อนหน้านี้ก็เงียบหายไป จนไม่นานมานี้เด็กและเยาวชนก็กลับมามั่วสุมกันใหม่ มีทั้งชายและหญิงยืนสูบบุหรี่กันหน้าบ้าน ควันเหม็นตลบอบอวล ตนต้องออกไปขายของข้างนอกทุกวันและมีคนแก่อยู่ในบ้าน จึงต้องจ้างช่างมาทำเหล็กดัด เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม หรือลักเล็กขโมยน้อยที่อาจเกิดขึ้น

ที่มาข่าวสด