สลดเด็ก 18 ฆ่าตัวตาย โดนหนุ่มปลอมเฟซเป็นสาวลวงรักสูบเงินกยศ. สื่อบุกเค้นรีบหนี
จากกรณีที่พบร่าง นายตนุภัทร หรือ น้องเจมส์ อายุ 18 ปี ชาว ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จมน้ำเสียชีวิตอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำ โครงการแก้มลิงชลประทาน พื้นที่หมู่ 10 บ้านสะพานไทร ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สภาพมีเชือกไนล่อนสีเขียวผูกติดแน่นอยู่ที่ข้อเท้าขวา โดยทางแพทย์และพนักงานสอบสวนลงความเห็นการเสียชีวิตจากเจตนาฆ่าตัวตาย แต่ยังคงไม่แน่ชัดในส่วนของสาเหตุการเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนที่ 19 เม.ย. 64
วันที่ 21 เม.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่วัดบางดี ม.1 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง สถานที่บำเพ็ญกุศลศพผู้เสียชีวิต ของน้องเจมส์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
โดยครอบครัวของน้องเจมส์ ได้พากันนั่งดูแชตข้อความในโทรศัพท์ของน้องเจมส์ พบว่ามีข้อความที่น้องเจมส์สนทนาพัวพันกับบุคคล 2 คน บุคคลในแชตบุคคลที่ 1 ชื่อนางสาวน้ำ อ้างตัวว่าเป็นผู้หญิง มีการสนทนาในแชตกับน้องเจมส์ ผู้เสียชีวิตใช้รูปโปรไฟล์การ์ตูน ตั้งแต่ 2 มี.ค. 64 จนถึง 18 เม.ย. ที่ผ่านมา
ลักษณะการพูดคุย ทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกันเรื่องเงินเติมเกม และฝ่ายหญิงที่ชื่อน้ำจะมีการทักมาขอยืมเงินผู้ตายอยู่เป็นระยะ ครั้งแรกวันที่ 2 มี.ค. 64 เวลา 13.45 น. ผู้ตายได้โอนเงินไปที่บัญชีหนึ่งที่เจ้าของบัญชีเป็นผู้ชาย เป็นเงินจำนวน 2,500 บาท
วันที่ 12 มี.ค. 64 เวลา 22.10 น. ผู้ตายได้โอนเงินให้กับนางสาวน้ำ ผ่านหมายเลขทรูมันนี่ วอเล็ท เป็นเงินจำนวน 200 บาท วันเดียวกันเวลา 19.00 น. ผู้ตายได้โอนเงินให้กับนางสาวน้ำไปที่หมายเลขทรูมันนี่ วอเล็ท หมายเลขเดิม เป็นเงินจำนวน 1,300 บาท รวมเงินที่ผู้ตายโอนให้นางสาวน้ำเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท
และนอกจากนี้ในแชตนางสาวน้ำ ยังได้พยายามขอเงินจากโครงการเราชนะจากผู้ตาย ซึ่งผู้ตายก็ได้บอกกับนางสาวน้ำว่าเงินจากโครงการเราชนะให้แม่ไปหมดแล้ว และผู้ตายยังได้โชว์ยอดเงินในโครงการเราชนะให้ฝ่ายหญิงดูอีกด้วย
กระทั่งวันที่ 14 เม.ย. 64 น้องเจมส์ได้ส่งข้อความตอบโต้กับนางสาวน้ำว่า “อาทิตย์หน้าเค้าก็ไม่อยู่แล้ว” นางสาวน้ำจึงตอบกลับว่า “ไม่คุยแล้วใช่ไหม ก็เลิกคุยกันไปเลย มีใหม่แล้วก็เป็นแบบนี้” น้องเจมส์จึงตอบกลับว่า “ไม่มี คุยไปคุยมาตัวก็คุยแต่เรื่องเงินตลอด พอบอกไม่มีตัวก็ไม่ยอม เรื่องเงินจะคืนไม่คืนแล้วแต่นะ อาทิตย์หน้าเค้าก็ไม่อยู่แล้ว”
และบุคคลที่ 2 ที่เข้ามาคุยกับน้องเจมส์อีกคนชื่อนายต้น น้องเจมส์มีการพูดคุยกับนายต้นผ่านแชตเฟชบุ๊ก วันที่ 8 ม.ค. 64 นายต้นเริ่มทักข้อความมาหาน้องเจมส์ ด้วยแสดงตัวว่าเป็นน้องชายของนางสาวน้ำ และเมื่อเจมส์ทะเลาะกับน้ำ นายต้นก็จะมาเจรจาให้เจมส์คืนดีกับน้ำ วันที่ 21 ม.ค. 64 เวลา 13.01 น. นายเจมส์ได้โอนเงินให้นายต้นไปที่หมายเลขพร้อมเพย์ ชื่อเจ้าของหมายเลขเป็นผู้ชาย เป็นเงินจำนวน 2,000 บาท และผู้ตายยังมีการโอนเงินให้นายต้นผ่านทรูมันนี่วอเล็ท อีก 1 ครั้ง เป็นเงินจำนวน 1,000 บาท และมีการโอนต่อเนื่อง
จากการสังเกตพบว่าในสลิปการโอนเงินที่นายเจมส์โอนเงินผ่านทรูมันนี่ วอเล็ทไปให้นางสาวน้ำ และนายต้น ผู้อ้างตัวว่าเป็นน้องชายของนางสาวน้ำ เป็นเบอร์โทรเบอร์เดียวกัน ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีและพ่อของผู้ตายโทรศัพท์ไปที่เบอร์ดังกล่าว มีผู้ชายรับสาย ปลายสายบอกว่าชื่อต้น
นายพิเชษฐ์ พ่อของผู้เสียชีวิต ได้สอบถามชายคนดังกล่าวว่ารู้จักน้องเจมส์หรือไม่ ชายคนดังกล่าวจึงตอบว่ารู้จัก นายพิเชษฐ์ถามต่อว่าแล้วเจมส์โอนเงินไปให้เท่าไรแล้ว ชายในสายตอบว่าส่วนใหญ่ตนจะโอนเงินไปให้เจมส์ก่อน และให้เจมส์โอนเงินมาให้ตนทีหลัง ส่วนสาเหตุที่ในแชตไม่มีสลิปที่ตนโอนเงินให้เจมส์ เพราะว่าตนใช้วิธีการโอนเงินให้เจมส์ผ่านตู้เติมเงินมือถือ สำหรับตนเองรู้จักกับเจมส์จากการเล่นเกมออนไลน์ รู้จักกันมา 7-8 เดือน หลังจากนั้นตนและเจมส์ก็คุยกันทางเฟชบุ๊กมาตลอด สำหรับตนเองชื่อต้น อาศัยอยู่ใน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย
กรณีที่เบอร์โทรของตน เป็นเบอร์เดียวกันกับเบอร์ที่นายเจมส์โอนเงินให้นางสาวน้ำนั้น ตนไม่รู้เรื่อง ด้านพ่อของน้องเจมส์ได้บอกกับนายต้นว่า เท่าที่ตนเองดูแชตการสนทนาระหว่างเจมส์กับต้น ตนเห็นว่ามีแต่เจมส์โอนเงินและส่งสลิปให้ต้น แต่ไม่เห็นสลิปการโอนเงินของต้นที่ส่งให้เจมส์แต่อย่างใด ทั้งนี้นายต้นยืนยันกับทีมข่าวและพ่อของนายเจมส์ว่า ตนเองไม่เคยปลอมเป็นผู้หญิงไปหลอกใคร ที่ตนส่งข้อความมาหาเจมส์ว่า “หลับให้สบายนะครับ” เป็นเพราะตนรู้ข่าวว่าเจมส์เสียชีวิต และตนก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อของน้องเจมส์จึงบอกกับนายต้นว่า “ต้นรู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรลงไป ลูกพ่อกำลังไปได้ดี แต่ต้นมาทำให้ลูกพ่อต้องหมดอนาคต”
หลังจากที่เมื่อเช้าพ่อของน้องเจมส์ได้โทรไปหานายต้นแล้วนั้น ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหานายต้นเพิ่มเติม นายต้นได้พูดสั้น ๆ ว่า ตัวเองรู้จักนางสาวน้ำ เพราะนางสาวน้ำเป็นพี่สาว ทีมข่าวจึงขอคุยกับนางสาวน้ำ นายต้นจึงตอบทีมข่าวว่านางสาวน้ำไม่อยู่บ้าน ไปทำงานร้านสะดวกซื้อ และไม่มีเบอร์ติดต่อนางสาวน้ำ ทีมข่าวจึงขอให้ต้นส่งรูปน้ำมาให้มีมข่าวดู ต้นจึงตอบว่าเดี๋ยวจะส่งให้ทีมข่าวในเฟชบุ๊กของเจมส์ ที่ใช้ติดต่อกับต้น แต่หลังจากต้นวางสายทีมข่าว ต้นก็ได้บล็อกเฟซบุ๊กของน้องเจมส์ และไม่สามารถเห็นข้อความแชตระหว่างต้นกับเจมส์ได้อีก
นายพิเชษฐ์ พ่อของน้องเจมส์ กล่าวว่า สาเหตุที่ลูกชายฆ่าตัวตายคาดว่าน่าจะมาจากความเครียดที่ลูกชายโอนเงิน กยศ. ที่มีในบัญชี 10,800 บาทและเงินโครงการไทยชนะ 7,000 บาท ไปให้กับบุคคลปริศนา ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้ลูกชายตั้งใจจะนำไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย ตนคิดว่ากลุ่มบุคคลที่หลอกให้ลูกชายโอนเงินให้น่าจะมีอยู่ประมาณ 2-3 คน ซึ่งเข้ามาตีสนิทและพูดคุยกับลูกชาย
หลังลูกชายเสียชีวิต ตนได้ไปดูแชตในโทรศัพท์ของลูกชาย จึงมารู้ว่าลูกชายได้มีการโอนเงินไปให้กับบุคคลปริศนาในเฟชบุ๊ก และไลน์ เป็นเงินทั้งหมดประมาณหมื่นกว่าบาท จากยอดสลิป ตนไม่รู้มาก่อนว่าลูกชายได้มีการโอนเงินให้กับคนอื่น สำหรับผู้หญิงที่คุยกับลูกชายในไลน์ และให้ลูกชายโอนเงินให้นั้น ตนก็ไม่รู้จัก และตนคิดว่าผู้หญิงรายนี้ไม่มีตัวตนอยู่จริง เพราะจากสลิปที่ลูกชายโอนให้ผู้หญิงในไลน์นั้น เจ้าของบัญชีเป็นผู้ชาย
สำหรับเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กยศ. นี้ ลูกชายตั้งใจจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา เพราะลูกชายอยู่ระหว่างจบ ม.6 และได้สมัครเรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ มหาลัยแห่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ส่วนที่นายต้นบอกกับตนว่าเขาได้เติมเงินให้ลูกชายตน ก่อนที่ลูกชายจะโอนเงินคืนให้เขานั้น ตนคิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะถ้าเขาโอนเงินให้ลูกชายตนจริง ในแชตระหว่างลูกชายพูดคุยกับเขาก็ไม่หลักฐานที่เขาโอนเงินให้ลูกชาย ตนยืนยันว่าตนกับลูกชายไม่ได้มีปัญหาภายในครอบครัว ซึ่งตนจะบ่นและตีลูกชายตามประสาพ่อลูกเท่านั้น ก่อนลูกชายจะเสียชีวิต ตนก็ไม่ได้มีลางสังหรณ์แต่อย่างใด ถ้าหากว่าบุคคลปริศนาที่ตนสงสัยหลอกลวงลูกชายจริง ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นเคสตัวอย่าง
จากนั้น เวลา 11.00 น. พ่อของน้องเจมส์และญาติได้เดินทางไปที่ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาบุคคลในแชตที่ให้ลูกชายโอนเงินให้จำนวนหลายครั้ง โดยทางด้านพันตำรวจโทประเสริฐ สงแสง รอง ผกก.สอบสวน สภ.ห้วยยอด ได้ทำการสอบปากคำและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ขอบคุณภาพและที่มาอมรินทร์