นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ภาพเอ็กซเรย์ปอด พร้อมกล่าวถึงเชื้อไวรัสที่ทำให้ปอดเสียหายหนักกว่าเดิม และทิ้งรอยโรคทำให้ต้องใช้เวลาในการรักษายาวนาน โดยยกตัวอย่างเคสผู้ป่วยวัย 80 ปี ที่เกิดผลกระทบกับปอดอย่างหนัก

โดยระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อัลฟาหรือสายพันธุ์อังกฤษ เป็นสายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดหนักในประเทศไทยรอบนี้ ติดต่อกันง่ายมาก เพิ่มจำนวนเชื้ออย่างรวดเร็วในร่างกาย เล่นงานปอดรุนแรงกว่าเชื้อสายพันธุ์เดิมในรอบก่อน บางคนถึงหายป่วยแล้ว ปอดยังเสียหายมาก ต้องใช้เวลานานเป็นหลายๆเดือนหรืออาจเป็นปีกว่าจะดีขึ้น

ผู้ป่วยชายไทยอายุ 80 ปี ปกติแข็งแรงดี ไม่มีประวัติป่วยเป็นโรคปอด ไม่สูบบุหรี่ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ป่วยเป็นโรคโควิด-19 โดยลูกเป็นคนนำเชื้อมาให้ผู้ป่วยและคนในครอบครัวรวมทั้งหมด 7 คน เข้านอนรักษาในโรงพยาบาลด้วยปอดอักเสบรุนแรง เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวทั้ง 2 ข้าง (ดูรูป) ทำคอมพิวเตอร์สแกนปอดพบเนื้อเยื่อปอดอักเสบรุนแรง มีทั้งฝ้าขาว รอยโรคเหมือนร่างแห และลักษณะผิดปกติคล้ายรังผึ้ง กระจายทั่วปอด (ดูรูป) ผู้ป่วยได้รับการรักษาเต็มที่ โชคดีที่ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ต้องใช้ออกซิเจนมากถึง 10 ลิตร/นาทีตลอดเวลา นอนในรพ.ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2564

8 สัปดาห์หลังจากเริ่มป่วย มีไอเล็กน้อย ไม่มีไข้ เดินนิดเดียวก็เหนื่อย ยังต้องใช้ออกซิเจน 4 ลิตร/นาทีตลอดเวลา ระดับออกซิเจนในเลือดถึงจะขึ้นมาอยู่ที่ 95% แต่ถ้าไม่ใช้ออกซิเจน ระดับออกซิเจนในเลือดจะลดลงต่ำกว่า 80% เอกซเรย์ปอดยังผิดปกติ ลักษณะคล้ายพังผืด แต่ดีขึ้นช้าๆ (ดูรูป)
ไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบระยะยาวต่อปอด (Post-Acute Sequelae of SARS-CoV-2 infection)
ขอให้ทุกคนรีบไปลงทะเบียน จองคิวฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันการป่วยหนักจากโรคโควิด-19 และหลีกเลี่ยงผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพเหมือนผู้ป่วยรายนี้