โคราชเอาจริง! ผู้ว่าฯ สั่งลงดาบ คนปกปิดไทม์ไลน์ เจอคุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น
ผู้ว่าฯโคราชเอาจริง! สั่งลงดาบ คนปกปิดไทม์ไลน์ คุก 1 เดือน ปรับ 1 หมื่น เตรียมบทลงโทษคนไม่ใส่แมสก์ด้วย หลังบุคลากรทางการแพทย์กักตัวกว่า 200 คน
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัด พญ.อารีย์ เชื้อเดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประชุมวางมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อใน 26 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย เป็นในพื้นที่ อ.เมือง 12 ราย, อ.สีคิ้ว 3 ราย, อ.บัวใหญ่ 2 ราย, อ.ปากช่อง 2 ราย และ อ.สูงเนิน 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 467 ราย รักษาหาย 88 ราย รักษาอยู่ 378 ราย เสียชีวิต 1 ราย
สำหรับข้อมูล รพ.สนาม มีผู้ป่วย 38 ราย แบ่งเป็นชาย 23 ราย หญิง 15 ราย คงเหลือเตียงว่างใน รพ.สนาม 62 เตียง และคงเหลือเตียงภาพรวมในจังหวัด 731 เตียง ส่วนรถชีวนิรภัยพระราชทาน ที่มาให้บริการตรวจหาเชื้อแก่ประชาชนพื้นที่เสี่ยง เขต อ.เมืองนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 23-25 เมษายน 2564 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด มีประชาชนมาตรวจหาเชื้อ 3,310 คน พบผู้ติดเชื้อ 8 ราย
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯนครราชสีมา กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และให้ข้อมูลไม่ชัดเจนเกี่ยวกับประวัติการเดินทาง ประวัติไปในพื้นที่เสี่ยง ส่งผลให้มีบุคลากรทางการแพทย์ต้องกักตัว กว่า 200 ราย จึงออกประกาศคำสั่งเอาผิด สำหรับประชาชนที่ปกปิดไทม์ไลน์
เพื่อให้ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค หากประชาชนจงใจปกปิดไทม์ไลน์ หรือไม่ให้ข้อมูลที่เป็นจริง ทางจังหวัดจะออกประกาศคำสั่งลงโทษแก่บุคคลเหล่านั้นทันทีตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มาตรา 49 ฐานไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริงต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ประกาศฉบับต่อไปจะเตรียมออกคำสั่งลงโทษประชาชนที่ไม่ให้ความร่วมมือในการสวมใส่หน้ากากอนามัยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมาเข้าใจถึงการออกคำสั่งประกาศของทางจังหวัด ก็เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้ขยายวงกว้างกว่านี้ โดยให้ร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด