9 ปีไม่เคยท้อ ตา 82 ตามหาลูกชายจนสิ้นลม ไม่ติดต่อกลับบ้าน ตร.ได้เบาะแส วอนมาทำบุญให้พ่อ
9 ปีไม่เคยท้อ ตาวัย 82 ปี ตามหาลูกชายจนสิ้นลม หลังไปทำงานที่ กทม. แล้วไม่ติดต่อกลับบ้านอีกเลย ตร.ได้เบาะแสล่าสุด วอนกลับมารับมรดก ทำบุญให้พ่อ
วันที่ 1 พ.ค.64 นายแถน และ นางมาน ชุมหิรัญ สองสามีภรรยาชาวบ้านโคกใหญ่ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาวิงวอนให้ชาวโซเชียลและประชาชนทั่วไปช่วยแจ้งเบาะแส หากพบเห็น นายอาจองค์ ชุมหิรัญ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นหลานชาย หลังจาก นายอาจองค์ ได้เดินทางไปทำงานที่ กทม.ตั้งแต่ปี 2555 แล้วหายไปไม่เคยติดต่อ หรือกลับมาบ้านอีกเลยเป็นเวลา 9 ปี
ซึ่งหลังจากหายออกจากบ้าน นายมีชัย ชุมหิรัญ อายุ 82 ปี ผู้เป็นพ่อ ก็ได้ไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.พิทักษ์ สิงห์คำ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ไว้เมื่อวันที่ 16 ม.ค.58 เพื่อให้ช่วยตามหา ทั้งยังพยายามตามหาด้วยตัวเองมาตลอด ถึงขนาดเคยบอกว่าหากใครตามหาลูกชายเจอจะให้วัวที่เลี้ยงไว้ 1 ตัวตอบแทน เพราะอยากเจอหน้าลูกชายมาก
กระทั่งเมื่อปี 2564 เริ่มมีอาการป่วยด้วยโรคปอดประกอบกับสังขารที่แก่ชรา เข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นประจำ และเมื่อเดือนนี้ (เม.ย.) ได้เกิดเป็นลมที่ศาลากลางจังหวัดขณะไปทำธุระ จนมีพลเมืองดีนำส่ง รพ.บุรีรัมย์ ซึ่งตอนนั้นในกระเป๋าของ นายมีชัย พบเพียงกระดาษที่จดเบอร์โทรของ ร.ต.อ.พิทักษ์ ที่เคยไปแจ้งความให้ช่วยตามหาลูกชายที่หายเท่านั้น ไม่สามารถติดต่อลูกหรือญาติได้ ทาง รพ.จึงติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนคนดังกล่าวเพื่อให้ช่วยประสานญาติ ก่อนจะพากันไปดูที่โรงพยาบาล กระทั่งเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา นายมีชัย ก็ได้เสียชีวิตลง โดยที่ไม่ทันได้เห็นหน้าลูกชายที่ตามหามา 9 ปี ญาติได้ช่วยกันประกอบพิธีฌาปนกิจศพเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา
นายแถน ได้ฝากถึงหลานชายว่า หากยังมีชีวิตหรือได้เห็นข่าวนี้ หรือหากใครพบเห็น นายอาจองค์ ก็ให้ช่วยแจ้งข่าว เพื่อให้ นายอาจองค์ กลับมาทำบุญกระดูกให้กับผู้เป็นพ่อด้วย ทั้งอยากจะให้หลานกลับมาดูแลบ้าน ที่ดิน และทรัพย์สินของพ่อที่เหลือ เพราะมีลูกชายเพียงคนเดียว ซึ่งก่อนที่ นายมีชัย จะล้มป่วยและเสียชีวิตก็ได้ตั้งเสาและซื้ออุปกรณ์มาไว้เพื่อเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับลูกชาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นหน้า
ด้าน ร.ต.อ.พิทักษ์ ระบุว่า หลังจากที่ นายมีชัย มาแจ้งความไว้เมื่อปี 2558 ว่าลูกชายหายออกจากบ้านติดต่อไม่ได้ ก็ได้ส่งข้อมูลคนหายไปยังศูนย์คนหายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งประสานขอข้อมูลไปยังที่ที่ นายอาจองค์ เคยทำงานเป็น รปภ. และ รพ.ที่มีสิทธิรักษาประกันสังคม แต่ก็ไร้วี่แวว กระทั่งเมื่อประมาณปี 2563 มีใบสั่งของ นายอาจองค์ ส่งมาที่บ้านว่าขี่รถจยย.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ในพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ กทม. จึงได้ให้เพื่อนที่ สน.พลับพลาชัย ช่วยไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่มีเบาะแส ส่วนใบสั่งก็ไม่มีคนไปชำระเงิน
ซึ่งจากข้อมูลต่างๆ ก็เชื่อว่า นายอาจองค์ น่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมไม่ติดต่อหรือเดินทางกลับบ้าน ก็อยากฝากถึงคนที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส เพราะอยากให้ นายอาจองค์ กลับมาทำบุญให้กับพ่อตัวเอง และกลับมาดูแลบ้านและมรดกที่เหลือด้วย เพราะ นายมีชัย มีลูกชายแค่คนเดียว