ทำแผน หนุ่มลั่นไกดับคู่อริ ลงมือปิดปากนร. ม.5 เห็นเหตุการณ์ ญาติผู้เสียชีวิต
ทำแผน หนุ่มลั่นไกดับคู่อริ หลังไปพบที่ร้านหมูกระทะ ลงมือปิดปากนร. ม.5 เห็นเหตุการณ์ ตร.เชื่อยังมีคนเอี่ยว ยายผู้เสียชีวิต วอนตร.ตั้งข้อหาหนัก
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 เม.ย.2564 พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชลิต มรกตศรีวรรณ ผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชย นำกำลังตำรวจควบคุมตัว นายแมนพงษ์ ชำนิงาน หรือ ซีเกมส์ อายุ 27 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตใช้ 9มม. ลั่นไก มีผู้เสียชีวิต2ราย หลังเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ เมื่อช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา
โดยจุดแรกที่ร้านหมูกระทะ ห่างจากจุดก่อเหตุราว 300 เมตร เป็นจุดที่ นายแมนพงษ์ พาภรรยา มานั่งกินหมูกระทะ และเป็นจุดที่เห็นผู้เสียชีวิต 2 คน มานั่งกินหมูกระทะด้วยเช่นกัน เมื่อผู้เสีนชีวิตกินเสร็จ ได้ขี่จยย.ออกจากร้านไป นายแมนพงษ์จึงบอกภรรยาว่า ให้กินหมูกระทะรอจะออกไปทำธุระจากนั้นก็ขี่จยย.ออกจากร้านหมูกะทะไป
ต่อมาจุดที่ 2 นายแมนพงษ์ จอดจยย.ไว้ในซอยข้างบ้านนายเต๋า จากนั้นเดินลัดเลาะในป่ากล้วย ไปยังบ้านอีกหลัง ระยะทางประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่ นายเต๋า นั่งคุยกับนายท๊อปและนายแฟ้ม โดยตั้งวงเสพกัญชาพูดคุยกัน เมื่อเดินไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เห็นนายท๊อปนอนอยู่ในเปล นายเต๋าและนายแฟ้มนั่งที่พื้นที่ เมื่อนายท๊อปเห็น จึงควักอาวุธที่เอวออกมา แต่ยังไม่ได้ลั่นไก
นายแมนพงษ์ จึงลงมือลั่นไกใส่นายท๊อปไป 1 นัดถูกที่ขา และนายท๊อปก็วิ่งหนีไปก่อน จึงตัดสินใจลั่ไกปิดปากนายแฟ้ม เพื่อนนายท้อป 2 นัด ที่หน้าผากและอก จนเสียชีวิตคาที่ ส่วนจุดที่ 3เป็นจุดที่วิ่งไล่ตามนายท๊อปที่ป่าหลังบ้านของชาวบ้าน ซึ่งห่างจากจุดที่2 ประมาณ 150 เมตร โดยลงมือลั่นไกใส่ศีรษะนายท๊อป2 นัด จากนั้นก็วิ่งหลบหนีไป โดยไม่ได้กลับไปเอารถจยย.คันที่จอดอยู่แต่อย่างใด
หลังทำแผนเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบนำตัวกลับไปคุมขังที่ สภ.โคกโพธิ์ไชยทันที เนื่องจากมีกลุ่มญาติพี่น้องฝ่ายผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน เดินทาวมาดูการทำแผน แต่ไม่ทัน จึงตามไปที่สภ.โคกโพธิ์ไชย เพื่อขอดูหน้ามือปืน แต่ก็ไม่ทันอีกรอบ จึงพากันเดินทางกลับ
ทั้งนี้ ในช่วงการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายแมนพงษ์ ถึงสาเหตุที่ลงมือ นายแมนพงษ์ ตอบว่า ทำไปเพราะผู้เสียชีวิตเคยไล่แจกกระสุนให้ตนเองก่อน แต่ในความจริงแล้วการมาเจอคู่กรณีในครั้งนี้ เพื่อต้องการเคลียร์ปัญหาว่าทำตนเองทำไม แต่ยังไม่ได้ถาม นายท๊อป ควักอาวุธออกมาก่อนจึงชิงลงมือก่อน เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะเป็นตนที่จะถูกคมกระสุนจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ กล่าวว่า หลังจากที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวที่สภ.โคกโพธิ์ไชย เมื่อช่วงค่ำวานนี้ จากในการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง สาเหตุมาจากการที่เคยถูกฝ่ายนายท๊อป ทำร้ายร่างกายและลั่นไกใส่ขณะไปเที่ยวงานบุญ เมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา จึงมีความแค้น และต้องการแก้แค้น กระทั่งขณะนั่งกินหมูกระทะเห็นคู่อริมากินที่ร้านเดียวกัน จึงให้ภรรยานั่งรอที่ร้าน และกลับไปเอาอาวุธที่บ้าน ก่อนไปก่อเหตุ
“จากคำรับสารภาพของนายแมนพงษ์ ทราบว่า ต้องการลงมือกับนายท๊อปเพียงคนเดียว แต่ช่วงเกิดเหตุนายท้อปเดินทางมากับนายแฟ้ม จึงลงมือกับนายแฟ้มเพื่อปิดปาก ส่วนนายเต๋านั้น นายแมนพงษ์ ให้การว่าเป็นน้องรัก และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว หลังเกิดเหตุ นายแมนพงษ์ ให้การอีกว่า ยังไม่พบและไม่มีการติดต่อกัน”
ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายแมนพงษ์ รับสารภาพว่าลงมือทำเพียงคนเดียวเพราะความแค้นที่เคยถูกรังแกมาก่อน แต่ด้วยเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ต้องมีการสืบสวนต่ออีกว่า หลัวจากนายท้อปนายแฟ้มกินหมูกระทะแล้ว ทำไมจึงมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ มีใครนัดมาหรือไม่ ซึ่งต้องมีการสืบสวนต่อ
โดยขณะนี้ นายเต๋า หรือผู้ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตัวนั้น ได้มีการประสานมาแล้วว่าจะเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน ซึ่งจะต้องสอบสวนนายเต๋าว่า ด้วยสาเหตุใดผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน จึงมาอยู่ในจุดดังกล่าว และกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายเต๋า รู้เห็นอะไรบ้าง ฉะนั้น เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง นายเต๋า ต้องเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเร็วที่สุด รวมถึงต้องตรวจสอบปลอกกระสุนอย่างละเอียดอีกว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นมีกี่กระบอก
ขณะที่นางลัดดาวัลย์ อายุ 53 ปี แม่นายเต๋า กล่าวว่า เมื่อทราบว่า นายแมนพงษ์ เข้ามอบตัวก็สบายใจ เพราะได้รู้ความจริงว่าลูกชายไม่ได้ทำใครเสียชีวิต และเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งสองคนด้วย และทราบจากลูกสาวว่า นายเต๋าพี่ชาย โทรมาหาแล้ว โดยบอกว่า ผู้บังคับบัญชาจะพาเขเพบตำรวจสภ.โคกโพธิ์ไชยในเร็วๆนี้ เพื่อจะมาให้ปากคำกับเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อทราบว่า ลูกชายยังสบายดี และยังจะมาพบตำรวจก็รู้สึกโล่งใจ เพราะโดยส่วนตัวก็คิดไว้ว่าลูกชายไม่ใช่คนจิตใจโหดเหี้ยมที่จะฆ่าคนได้
นางเนตรภัทร์ อายุ 54 ปี ยายนายแฟ้ม นร.ชั้น ม.5 ที่เสียชีวิต กล่าวว่า พากันมาดูหน้า คนก่อเหตุ และมาพบตำรวจ เพื่อสอบถามในด้านของการช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่ยังเป็นเยาวชน ที่ไม่เคนมีเรื่องกับใคร แต่ต้องมาเสียชีวิตอยากทราบว่า ทางราชการมีหน่วยงานใด จะมาให้การช่วยเหลือบ้าง ซึ่งขณะนี้ได้พูดคุยกับผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชยแล้ว และเข้าใจแล้วว่ามีหน่วยงานมาช่วยเหลือ
หลังพิธีฌาปนกิจฟลานชาย จะ”ปติดต่อกับผกก.สภ.โคกโพธิ์ไชยอีกครั้ง เพื่อประสานกับหน่วยงานดังกล่าว เนื่องจากวันเกิดเหตุนั้น นายท๊อปมาขอยืมรถจยย.จากหลานเพื่อมาหาเพื่อนที่บ้านโคก แต่ฟลานบอกว่า ไม่ต้องยืมจะขี่ไปส่งเอง แต่เมื่อหลานชายมาส่งเพื่อน ก็มาถูกก่อเหตุจนเสียชีวิต ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการดำเนินการตามกฎหมายด้วยข้อหาที่สูงสุด
ภาพและที่มาข่าวสด